【ดูnba】องค์การเภสัชกรรมหมุน 'น่านแซนด์บ็อกซ์' เปลี่ยนเขาหัวโล้น ปลูกพืชทำยาโกยเงินแสน | เดลินิวส์
ปฏิเสธได้ยากว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นถี่ ๆ ในระยะหลัง ๆ มีสาเหตุหนึ่งมาจากฝีมือมนุษย์ที่ทำร้าย ทำลายสิ่งแวดล้อมสะสมจากการใช้สารเคมี การตัดไม้ทำลายป่า จนเกิดภาวะน้ำแล้ง น้ำท่วม ดินถล่มถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้น แม้กระทั่งฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ที่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพของคนไทยอยู่ในช่วงนี้ก็เป็นผลจากการไหม้พื้นที่เกษตร การเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ตลอดจนโรงงานอุตสาหกรรม
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์ที่เป็นจำเลยมากที่สุดคือการแผ้วถาง การเผาพื้นที่เกษตร ที่เป็นปัญหามาทุกๆ ปี การแก้ไขปัญหาเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากต้องยอมรับว่า ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการประกอบอาชีพของคนในพื้นที่ “การห้ามเด็ดขาด” กลับนำไปสู่การ “ลักลอบทำ” ที่ยากควบคุม
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามของหลายหน่วยงานที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ค่อยๆ รุกคืบเปลี่ยนรูปแบบการประกอบอาชีพเกษตรกรรม จากที่ต้องถางทำลาย เผาพื้นที่ มาเป็นการเพิ่มการ “ปลูกพืชทำยา” ใต้ผืนป่า ที่ องค์การเภสัชกรรม ร่วมกับ สถาบัน เค อะโกร-อินโนเวท ภายใต้มูลนิธิกสิกรไทย พัฒนายาและผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพจากพืช ปักหมุดคืนพื้นที่ เขาหัวโล้นที่จังหวัดน่าน เพื่อเป็นต้นแบบก่อนขยายไปพื้นที่อื่น ในชื่อ “น่านแซนด์บ็อกซ์”
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์
นายอนันต์ ลาภสุขสถิต ประธานสถาบันเค อะโกร-อินโนเวทฯ” ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันพื้นที่ป่าจังหวัดน่านหายไปกว่า 1.8 ไร่ หรือ 28% ของพื้นที่ป่าสงวนในจังหวัด จากการเอาไปปลูกข้าวโพด เหลือพื้นที่ป่าเพียง 4,564,996 ไร่เท่านั้น ถึงได้เกิดเป็นโครงการน่านแซนด์บ็อกซ์ขึ้นมา โดยร่วมกับภาครัฐและเอกชน เพื่อค้นหาวิธีให้คนอยู่กับป่า มีการตั้ง “ศูนย์วนเกษตร-พฤกษเภสัช” รวบรวมและถ่ายทอดองค์ความรู้การ “ปลูกพืชยา” ในสร้างสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์
อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนรูปแบบทำการเกษตรเช่นนี้ต้องค่อย ๆ ทำและใช้เวลา ปลูกพืชยาใต้ร่มไม้ ช่วยให้สามารถคงป่าเอาไว้ได้ ควบคู่กับการมีพืชยาที่สามารถทำเงินได้ เช่น ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน และตัวอื่น ๆ ที่เราต้องมาศึกษาร่วมกันว่า ในช่วงไหนต้องการพืชชนิดใด ควรปลูกเท่าไหร่ เพื่อให้ได้ปริมาณตามต้องการ ไม่แย่งตลาดกันเอง ไม่โหมปลูกเหมือน ๆ กันจนทำให้เกิดการล้นตลาด
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์ทั้งนี้ พืชเกษตรเดิมที่ชาวบ้านปลูก สร้างรายได้ต่อไร่ต่อปี อยู่ที่ 900-3,000 บาท เพื่อให้มีรายได้เพียงพอเลยต้องขยายพื้นที่ปลูกให้ได้ประมาณ 50 ไร่เพื่อให้มีรายได้ต่อปีอยู่ที่ประมาณ 1.5 แสนบาท แต่ถ้าหันมาปลูกพืชทำยา จะสามารถสร้างรายได้ 1 ไร่ประมาณ 1 แสนบาท คือรายได้เท่าๆ กับปลูกข้าวโพด 50 ไร่ ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรที่ร่วมโครงการ 39 ราย และปี 2568 คาดว่าจะได้ถึง 100 ราย และปี 2569 ประมาณ 500 ราย และค่อย ๆ รุกคืบคืนพื้นที่ป่าไปเรื่อย ๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์
“จากการค้นคว้าข้อมูลพบว่า ยาที่มาจากพืชในโลกนี้ถึง 9% และครึ่งหนึ่งอยู่ยุโรป และครึ่งหนึ่งอยู่เยอรมนีประเทศไทยก็มีใช้ แต่พอลงลึกไปกลับมีการนำเข้าสารสกัดมาจากต่างประเทศ มีแค่ไม่ถึง 1% ที่ใช้พืชสมุนไพรที่ผลิตในประเทศ ส่วนใหญ่ไปอยู่ที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง แปลว่าอุตสาหกรรมยาจากพืชแทบไม่มี แต่ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีการส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มขึ้น”
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์
ด้าน “ภญ.วิลักษณ์ วังกานนท์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ระบุว่า อภ.ดำเนินโครงการ “PLANTXGPO” ภายใต้แนวคิด GPO PLANT BASED MEDICINE มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรโดยร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสมุนไพรไทย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ ซึ่ง อภ. ได้วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยแบ่งเป็น 3 หมวด 1. ยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสารสำคัญจากพืชเป็นหลัก อาทิ สเปรย์สมุนไพรที่มีส่วนผสมของไพลพ่นคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย, ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหารสารสกัดขมิ้นชันสูตรเสริมความแข็งแรงของกระดูกและข้อ (Ca-Curmin) , ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบำรุงร่างกาย เป็นต้น
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์2. เครื่องสำอาง อาทิ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้สารสกัดจากสมุนไพรช่วยบำรุงผิวและชะลอวัยจากขมิ้นชัน มะหาด ดอกโบตั๋น เกสรดอกบัวหลวง และใบบัวบก เป็นต้น 3. ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกลุ่มนวด สปา เช่น ผลิตภัณฑ์ลูกประคบ และน้ำมันหอมระเหย
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์ล่าสุด อภ. เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ชื่อ นันท์ จีพีโอ โกลบิเน็กซ์ ผลิตจากสารสกัดขมิ้นชัน ที่นำมาจากจังหวัดน่าน โดย 1 แคปซูล ประกอบไปด้วย สารสกัดขมิ้นชันเทียบเท่าสารเคอร์คูมินอยด์ 250 มิลลิกรัม มีสรรพคุณลดความรุนแรงของภาวะเครียดออกซิเดชัน และใช้เสริมการรักษาเพื่อลดความรุนแรงของภาวะเหล็กเกินและภาวะอักเสบ ในผู้ป่วยโรคเบต้าธาลัสซีเมีย ขณะนี้ได้ขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว คาดว่าจะออกสู่ตลาดได้ในเร็วๆ นี้ และสั่งใช้โดยแพทย์ในโรงพยาบาล ควบคู่กับการศึกษาประสิทธิผลของยาเพิ่มเติม ในระดับคลินิก ศึกษาในผู้ป่วยมากกว่า 100 คนที่ รพ.ศิริราช
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์ภก.ปฐมพงศ์ สาธร นักพัฒนานวัตกรรมพฤกษเภสัช สถาบันฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยานันท์ จีพีโอ–โกลบิเน็กซ์ เพิ่มเติมว่า การศึกษาสารสกัดขมิ้นชันมีแอนตี้ออกซิแดนท์ต้านการอักเสบที่ดี ช่วยเสริมการขับเหล็กในคนไข้ที่ได้รับยาขับเหล็กบางรายการ จึงคิดว่าน่าจะต่อยอดได้ เป็นตัวเสริมการรักษา และทำให้คุณภาพชีวิตผู้ป่วยดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยาตัวนี้จะเหมาะกับกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการถ่ายเลือดเป็นประจำ
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์นี่คือความร่วมมือตั้งต้นในการใช้วัตถุดิบ “พืชยา” จากโครงการ “น่านแซนด์บ็อกซ์” อนาคตคาดว่าจะมีการสกัดสารสำคัญในสมุนไพรจากความร่วมมือนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ.
องค์การเภสัชกรรมหมุนน่านแซนด์บ็อกซ์เปลี่ยนเขาหัวโล้นปลูกพืชทำยาโกยเงินแสนเดลินิวส์本文地址：http://realhistorychan.com/html/56b599356.html
版权声明
本文仅代表作者观点，不代表本站立场。
本文系作者授权发表，未经许可，不得转载。