【เกมกระติก】ย้อนมรสุมชีวิต! 'ไอซ์ ปรีชญา' เจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัด แต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจ | เดลินิวส์
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงที่มีกระแสดราม่าให้พูดถึงได้ตลอดเวลา สำหรับ “ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร” นักแสดงสาวชื่อดัง โดยเธอนั้นมีหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัวเพื่อหาเงินดูแลรักษาโรคประจำตัวให้กับพ่อแม่ ซึ่งชีวิตของเธอไม่ได้สวยหรูมากนักแถมยังต้องมาเจอกับมรสุมชีวิตที่เข้ามาถาโถม พร้อมกระแสดราม่าที่กระหน่ำเข้ามาหาเธออย่างมากมาย สุดท้ายก็กลับมาลุกขึ้นสู้ต่อได้ด้วยกำลังที่แฟนๆ มอบให้อย่างล้นหลาม แต่ล่าสุดก็กลับเจอข่าวร้อนที่แฟนๆ ต่างพากันแห่ห่วงกันอย่างมากนั้น
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์
วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จึงอยากจะพาทุกคนมาย้อนเรื่องราวที่สาวไอซ์ ได้พบเจอปัญหามาก่อนหน้านี้ ซึ่งกว่าที่เธอจะมาถึงทุกวันนี้เธอต้องฟันฝ่าสู้กับอุปสรรคในชีวิตมากมายจนเธอต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนต้องพักงานบันเทิง แต่แล้วสาวไอซ์ได้พลิกชีวิตกลับมาโด่งดังในชั่วข้ามคืนจากบทบาทเมร่อน
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์
ย้อนกลับไปกลางปี 2566 ด้านสาวไอซ์มีกระแสเอี่ยวคดีไซยาไนด์ ซึ่งสืบเนื่องมาจากคดีของ “แอม ไซยาไนด์” ซึ่งต่อมาสาวไอซ์และคุณแม่ ได้ออกมาเปิดใจว่า เพราะเห็นเป็นสารพิษ เลยอยากเอามาใช้กำจัดสัตว์ต่างๆ อาทิ ตัวเงินตัวทอง งู หนู เพราะไอซ์เป็นคนขี้กลัวสัตว์เลื้อยคลาน และให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์ต่อมาเมื่อปลายปี 2566 สาวไอซ์ได้ขับรถไปกองถ่ายละคร แต่เกิดประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยเธอหลับในและขับรถมาด้วยความเร็ว จึงทำให้รถเสียหลักชนท้ายรถหกล้อ ซึ่งเธอได้รับบาดเจ็บหนักเกือบเสียโฉม และนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เธอต้องศัลยกรรมใบหน้าในเวลาต่อมา
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์
หลังจากมีกระแสที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวมรสุมต่างๆ ในปี 2566 ต่อมาได้มีกระแสข่าวลือของสาวไอซ์กับแฟนหนุ่มลูกครึ่ง “สเตฟาน อีสเลอร์” โดยขณะเดียวกันสาวไอซ์ได้ออกมาโพสต์สตอรี่ภาพดำ พร้อมกับโพสต์ภาพถือยาแคปซูลและเขียนแคปชั่นว่า “แก้ช้ำ” ซึ่งหลายคนเห็นก็รู้สึกมีความผิดปกติ และต่อมาก็ได้มีการรายงานจากแหล่งข่าวหลายที่ว่า สาวไอซ์ได้หมดสติกลางห้องนอน โดยคุณแม่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ขณะนั้นชีพจรอ่อน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และเข้ารักษาตัวอยู่ในห้อง ICU จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทำให้เธอได้ออกมาเปิดใจผ่านอินสตาแกรมของเธอ ว่าเธอได้ออกมาเปิดใจยอมรับว่ากำลังต่อสู้กับโรคซึมเศร้าและได้ให้สัญญาผ่านโพสต์ดังกล่าวว่า จะรักตัวเองให้มากกว่านี้
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์
หลังจากผ่านมรสุมอันโหดร้ายมามากมาย เธอได้ทำการรักษาตัวและพักงานในวงการไปนานพอสมควร ต่อมาสาวไอซ์ได้กลับมารับงานในวงการโดยการรับเล่น MV เพลง เมร่อน บทบาทดังกล่าวนี้จึงทำให้ชื่อเสียงของเธอกลับมาโด่งดังอีกครั้งในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แฟนคลับของเธอพากันแห่เข้ามาคอมเมนต์ว่า “ไอซ์กลับมาแล้ว” ซึ่งเป็นเรื่องที่หลายคนดีใจกันเป็นอย่างมาก
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์
แต่หลังจากมีกระแสเพลงเมร่อนได้ไม่นาน เธอก็ดันมีประเด็นดราม่าเรื่องเต้นร่อนเอวบทสวดคาถาจักรวาล 8 ทิศ โดยสาวไอซ์ใส่เสื้อเอวลอยตัวจิ๋ว เต้นร่อนเอวในติ๊กต็อกซึ่งมีเพลงประกอบบทสวดคาถาจักรวาล 8 ทิศ พร้อมระบุแคปชั่นว่า “เวอร์ชั่นไหนน้อนี่ (brunomars what i like x universe pray) ได้ด้วยเหรอ ??” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กลายเป็นกระแสดราม่าขึ้นมาทันที
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์แต่ล่าสุดสาวไอซ์ได้ออกมาไลฟ์สดตามปกติของทุกวัน และต่อมาเธอได้ลงอ่างอาบน้ำโดยที่โทรศัพท์ของเธอนั้นยังมีการไลฟ์อยู่ ซึ่งในคลิปเป็นช่วงที่กำลังอาบน้ำแล้วช่วงที่ถูสบู่ผ้าขนหนูทั้งท่อนบนและล่างเกิดหลุด จึงทำให้คนที่ติดตามไลฟ์สดอยู่ ได้บันทึกคลิปไว้แล้วนำมาปล่อยในโซเชียล จึงทำให้เกิดข้อสงสัยและเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย แต่บางกลุ่มก็ส่งกำลังใจเป็นห่วงพร้อมกับตักเตือนให้ระมัดระวังมากกว่านี้ ไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะกลัวจะเกิดความเสียหายและเกิดกระแสดราม่าจนอาจจะทำให้มีปัญหาอื่นๆ ตามมาด้วย..
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก icepreechaya
ย้อนมรสุมชีวิตไอซ์ปรีชญาเจอปัญหาถาโถมกระแสดราม่าซัดแต่ลุกขึ้นได้ด้วยกำลังใจเดลินิวส์本文地址：http://realhistorychan.com/html/46f599925.html
版权声明
本文仅代表作者观点，不代表本站立场。
本文系作者授权发表，未经许可，不得转载。