【เข้าสู่ระบบ 888】20 ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหา 'เด็กอ้วน' รั้งที่ 3 อาเซียน | เดลินิวส์

ความบันเทิง 2025-03-16 04:22:01 81

เรื่อง “อ้วน” ไม่ใช่ภาวะปัจเจกอีกต่อไป เนื่องจาก ความอ้วนนำมาสู่การเป็นโรคไม่เรื้อรัง หลัก ๆ คือ “โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็ง” ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคสูง ทำให้คนป่วยสูญเสียปีสุขภาพดี กระทบกับการทำงาน

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

’ถ้าเราลดความอ้วนลงได้ ก็จะถือเป็นการช่วยเหลือประเทศได้อีกทางหนึ่ง“ นี่คือคำกล่าวของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในงานรณรงค์วันโรคอ้วนโลก (World Obesity Day 2025) “เปลี่ยนระบบใหญ่ เพื่อชีวิตเล็กๆที่ดีขึ้น ลดเสี่ยงโรคอ้วน ห่างไกล NCDs” แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องเกินจริง

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

นายสมศักดิ์ ระบุว่า โรคอ้วนเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทุกกลุ่มวัย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย จิตใจ สังคม และเศรษฐกิจ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCDs กระทรวงสาธารณสุขได้ขับเคลื่อนนโยบายคนไทยห่างไกลโรค NCDs มุ่งเน้นส่งเสริมวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพ การป้องกันและควบคุมปัญหาโรคอ้วนนับเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการเปลี่ยน 4 ระบบ ได้แก่ 1. เปลี่ยนระบบอาหารในสถานศึกษา ให้มีคุณภาพมากขึ้น 2.เปลี่ยนการตลาดอาหารให้ลดหวาน มัน เค็ม 3. เปลี่ยนระบบบริการสุขภาพ มีการคัดกรองด้านโภชนาการ เพื่อให้ผู้ที่เป็นโรคอ้วนได้รับการส่งต่อและดูแลอย่างเหมาะสม 4.เปลี่ยนสภาพแวดล้อมเพิ่มการมีกิจกรรมทางกาย เพื่อลดความเสี่ยงโรคอ้วนและโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในทุกกลุ่มวัย

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

ขณะที่ พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย ก็ได้เปิดผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทยในเด็กและเยาวชน ล่าสุด ซึ่งพบว่า ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในเด็ก มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเด็กเล็กอายุ 1-5 ปี มีภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน เพิ่มขึ้นจาก 5.8 เปอร์เซ็นต์ เป็น 10.6 เปอร์เซ็นต์ และเด็กวัยเรียนเพิ่มขึ้นจาก 5.8 เปอร์เซ็นต์ เป็น 15.4 เปอร์เซ็นต์

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยยังมีเด็กเป็นโรคอ้วนสูงเป็นอันดับ 3 ในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซียและบรูไน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ โดยข้อมูลล่าสุดจากการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย ปี 2563 พบว่า ประชาชนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป เป็นโรคอ้วนสูงถึง 42.4 เปอร์เซ็นต์ โดยพฤติกรรมการบริโภคอาหาร กิจกรรมทางกาย สภาพแวดล้อม และระบบบริการสุขภาพ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอ้วนและโรค NCDs

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

อย่างไรก็ตาม ผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศไทย Dr.Jos Vandelaer WHO Representative to Thailand ยังได้ชื่นชมที่ประเทศไทยมีนโยบายและแนวทางในการจัดการโรคอ้วน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับวันโรคอ้วนโลก ปี 2568 (World Obesity Day 2025) กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัย รณรงค์ภายใต้แนวคิด ทั้งนี้ วิธีการลดน้ำหนัก แก้โรคอ้วน ป้องกันเอ็นซีดี ที่กระทรวงสาธารณสุขพยายามรณรงค์ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งทำข้อมูลไว้น่าสนใจ คือ “การนับคาร์บ” หรือการกินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่พอเหมาะ จะมีผลดีคือ 1. คุมระดับน้ำตาลในเลือด การกินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่พอเหมาะ โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และไม่ทำให้ร่างกายต้องหลั่งอินซูลินมากเกินไป และยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด การกินคาร์โบไฮเดรตที่ดีช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) และคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

3. ลดการสะสมไขมันในร่างกาย (Preventing Fat Accumulation) การกินคาร์โบไฮเดรตแปรรูปในปริมาณมากทำให้ร่างกายไม่สามารถใช้พลังงานได้หมด ส่งผลให้มีการเก็บสะสมพลังงานส่วนเกินในรูปของไขมัน โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง ดังนั้นการนับคาร์บ ลดคาร์โบไฮเดรตจึงสามารถช่วยลดการสะสมไขมันในร่างกายได้

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

4. ลดการอักเสบในร่างกาย (Reducing Inflammation) คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ธัญพืชที่ไม่ขัดสี มีใยอาหารสูง จะช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและโรคเรื้อรังอื่น ๆ

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

5. สนับสนุนระบบเผาผลาญ (Enhancing Metabolism) การบริโภคคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสมช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้อย่างสมดุล โดยไม่ต้องดึงพลังงานจากโปรตีนหรือไขมันมาใช้ ซึ่งช่วยปกป้องมวลกล้ามเนื้อและลดความเสี่ยงต่อภาวะคีโตซิส (Ketosis)

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์

สิ่งสำคัญคือเสริมด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้ผ่องใสด้วย.

ปีไทยก้าวไม่พ้นปัญหาเด็กอ้วนรั้งที่อาเซียนเดลินิวส์
本文地址:http://realhistorychan.com/html/2e599544.html
版权声明

本文仅代表作者观点,不代表本站立场。
本文系作者授权发表,未经许可,不得转载。

热门文章

全站热门

สังคมโลก : ความไม่เท่าเทียม | เดลินิวส์

'Paul Smith' ฉลองเปิดตัวแฟล็กชิปสโตร์แห่งใหม่ ณ Central Embassy | เดลินิวส์

‘สุนัขพูเดิลสีดำ’ พิชิตรางวัลชนะเลิศ งานประกวดสุนัขเก่าแก่ที่สุดของสหรัฐ | เดลินิวส์

Membership – THE STANDARD รับสิทธิประโยชน์ และเข้าร่วมกิจกรรมก่อนใคร

รฟท. เตือนเผื่อเวลาเดินทางไปสถานี รถไฟสุไหงโก-ลก ฝ่ายความมั่นคงปิดพื้นที่

โรงงานยุงในโคลอมเบีย ต่อสู้กับไข้เดงกี - ข้อมูลบิดเบือน | เดลินิวส์

LHFG ติดทำเนียบหุ้น ESG100 เป็นปีที่ 9 โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล | เดลินิวส์

‘ซีเค พาวเวอร์’ ร่วมกับ ‘หอศิลป์คลังจัตุรัส’ เดินหน้าโครงการเรียนรู้พลังงานสะอาดด้วยวิถีศิลป์ เปลี่ยนเรื่องพลังงานหมุนเวียนให้ครู-นร.เข้าใจได้ง่าย | เดลินิวส์

热门文章

友情链接