【m88 เอ็ ม สปอร์ต】The Art of Leading Teammates: 7 ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจาก ทอม เบรดี

เวลาว่าง 2024-09-17 03:59:35 4882
HIGHLIGHTS13 MIN READ เพราะความเป็นผู้นำจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความเชื่อใจ (Trust) และความเชื่อใจก็จะเกิดขึ้นจากความห่วงใยลึกๆ ที่มีต่ออีกคน ส่วนความเชื่อว่าจะชนะเป็นเรื่องของทีม คนเป็นผู้นำจำเป็นที่จะต้องรู้สึกถึงสองสิ่งนี้อย่างแรงกล้าคนที่สอนให้เบรดีได้รู้ว่าเราต้องใส่ใจกับคนที่เป็น Unsung Hero หรือคนที่ปิดทองหลังพระเหล่านี้ด้วยคือ ไบรอัน กรีสการได้เล่นให้กับโค้ชที่ดีแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่โชคดี แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘วิธีการ’ ของเขาในการหาทางกระตุ้นทีมที่มุ่งเน้นเล่นกับเรื่องของ ‘ความกลัว’ บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ยากจะรับมือ ดังนั้นในฐานะผู้นำของทีม เบรดีจึงพยายามที่จะหาทางเติมเต็มในสิ่งที่เบลิชิกไม่มีตามประสากิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ มันต้องมีการเล่นเกมสนุกๆ กันบ้าง กินข้าวด้วยกันบ้าง และได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกันบ้าง เบรดีเชื่อว่านี่แหละคือโอกาสที่ดีที่จะได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในทีม

ในเวลาที่สังคมพูดถึงความสำเร็จ เรามักจะสนใจกับความสำเร็จส่วนบุคคลมากกว่า เราหมกมุ่นอยู่กับคำถามว่า “ใครคือคนที่เก่งที่สุดตลอดกาล” “ใครคือคนที่มีส่วนกับชัยชนะมากที่สุด” หรือ “จะมีผู้เล่นหรือโค้ชคนไหนที่จะเข้ามาในฤดูกาลต่อไปเพื่อทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ความคิดเหล่านี้อาจทำให้เราหลงทางได้ เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่มีความสำเร็จใดๆ ในชีวิตที่ทำได้โดยคนคนเดียว การจะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้นได้นั้นเราจำเป็นต้องพึ่งพาเพื่อนร่วมทีมเสมอ และเพื่อจะคว้าชัยชนะ คนที่เป็นผู้นำจะต้องหาทางที่จะดึงศักยภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของผู้เล่นที่อยู่ในทีมเดียวกันออกมาให้ได้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

นี่คือสิ่งที่ ทอม เบรดี อดีตควอเตอร์แบ็กมือทอง เจ้าของนิยามของคำว่า ‘G.O.A.T.’ (The Greatest of All Time) ได้พยายามที่จะบอกกับทุกคนหลังจากที่เขาอำลาวงการอเมริกันฟุตบอล

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ความสำเร็จนั้นไม่ได้เกิดจากการขว้างบอลที่แม่นยำราวกับเครื่องจักร แต่เกิดจากการทำอย่างไรให้ตัววิ่งพร้อมที่จะไปอยู่ตำแหน่งที่ว่างเพื่อรับบอลให้ได้ และก่อนนั้นคือฟูลแบ็กคนที่ไม่อยู่ในแสงต้องพยายามช่วยบล็อกเพื่อเปิดทางวิ่งให้เพื่อนได้วิ่งสะดวกที่สุด

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดีทำอย่างไรเพื่อให้เพื่อนร่วมทีม (Teammates) เชื่อและพร้อมที่จะเดินตาม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

นี่คือ 7 สิ่งที่ G.O.A.T. คนนี้เรียนรู้มาทั้งชีวิต และเปิดเผยเคล็ดวิชาการเป็นผู้นำในฉบับของเขาออกมาให้ทุกคนได้เรียนรู้ไปด้วยกันครับ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

บทเรียนที่เบรดีถ่ายทอดได้รับความช่วยเหลือจาก นิติน โนห์เรีย อดีตคณบดีแห่ง Harvard Business School ซึ่งเป็นแฟนตัวยงของเขาและทีมอเมริกันฟุตบอลนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ โดยทั้งคู่ได้เดินทางผ่านเรื่องราวและความทรงจำตลอดการเล่นของตำนานควอเตอร์แบ็กผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ก่อนที่สกัดออกมาได้เป็นเคล็ดวิชาและองค์ความรู้ที่มีค่าอย่างยิ่ง ‘Tom Brady on the Art of Leading Teammates’ ที่ได้รับการเผยแพร่ใน Harvard Business Review

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แต่ก่อนจะไปถึง 7 สิ่งที่เบรดีได้เรียนรู้ สิ่งแรกที่เขาเกริ่นไว้เป็นเหมือน ‘บทนำ’ ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งก่อนทุกสิ่งคือ ‘ปรัชญาการโฟกัสเพื่อทีม’ (A Team-Focused Philosophy)

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ความเป็นผู้นำ (Leadership) ประกอบไปด้วย 2 สิ่งด้วยกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

อย่างแรก คุณแคร์เพื่อนร่วมทีมและบทบาทของพวกเขาในทีมหรือไม่?

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

อย่างที่สอง คุณแคร์เกี่ยวกับชัยชนะ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณต้องพยายามช่วยกันทำให้ได้หรือเปล่า?

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เพราะความเป็นผู้นำจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความเชื่อใจ (Trust) และความเชื่อใจก็จะเกิดขึ้นจากความห่วงใยลึกๆ ที่มีต่ออีกคน ส่วนความเชื่อว่าจะชนะเป็นเรื่องของทีม คนเป็นผู้นำจำเป็นที่จะต้องรู้สึกถึงสองสิ่งนี้อย่างแรงกล้า

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในยามชมการถ่ายทอดสด เราจะเห็นว่าทุกคนสนใจแต่เรื่องของเบรดี แต่ในชีวิตจริงแล้ว เบรดีบอกว่าตัวเขาเองพยายามจะเป็นเพื่อนร่วมทีมในอุดมคติของทุกคน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

พื้นฐานที่สำคัญที่สุดมาจากการเลี้ยงดูของครอบครัวที่ช่วยบ่มเพาะเขาให้เป็นคนที่มีความคิดและทัศนคติแบบนี้ ก่อนที่ความคิดและความเชื่อจะยิ่งหนักแน่นยิ่งขึ้นจากการได้ใช้ชีวิตในทีมอเมริกันฟุตบอลระดับโรงเรียนและระดับมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในตอนที่เล่นให้กับมหาวิทยาลัยมิชิแกน ปรัชญาของทีมนั้นคือการให้ทีมเป็นศูนย์กลาง (Team-Centric Philosophy) คือสิ่งที่ทำให้เบรดีเป็นตัวเขาอย่างในทุกวันนี้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในวงการกีฬา มีคำพูดหนึ่งที่มีมาเนิ่นนานและยังใช้ได้อยู่เสมอ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

“คุณอยากจะเป็นสตาร์ หรือคุณอยากจะเป็นแชมป์”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สำหรับเบรดี เขาให้ความสำคัญกับเป้าหมายของทีมก่อนอื่นใดเสมอ ทำเพื่อให้ทีมชนะในการแข่งขันและคว้าแชมป์ รวมถึงการเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ดีมากกว่าจะสนใจแค่เป้าหมายส่วนตัว ซึ่งเป็นทัศนคติที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิตการเล่นอันยิ่งใหญ่

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจคือในวงการกีฬาอาชีพ ไม่ใช่นักกีฬาทุกคนหรอกที่จะคิดและเชื่อแบบนั้น

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

บางคนชอบเคลมเครดิตในเวลาที่ทีมประสบความสำเร็จ แต่จะโบ้ยความผิดทุกอย่างให้คนอื่นในเวลาที่ทีมล้มเหลว โทษทั้งกรรมการ เพื่อนร่วมทีม และโค้ช

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

มีคนที่สนใจเกี่ยวกับสถิติส่วนตัวหรือรางวัลส่วนตัวมากกว่าอย่างอื่น สิ่งที่แย่คือเพื่อนร่วมทีมย่อมรู้อยู่แล้วว่าคนแบบนี้เป็นอย่างไร และการทำตัวแบบนั้นก็ส่งผลต่อเพื่อนร่วมทีมที่ทำให้ไม่อยากจะทุ่มเททำผลงานให้ดีที่สุดตามไปด้วย เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม ทำดีไปก็ไม่ได้เครดิตอยู่ดี

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มคิดว่าทำไมคล้ายชีวิตจริงในที่ทำงานของฉันจัง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แล้วผู้นำที่ดีในแบบฉบับของ ทอม เบรดี เป็นอย่างไร? มาครับ มาเรียนรู้ไปพร้อมกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี1. เพื่อทีมตลอดไป

บทเรียนแรกที่ ทอม เบรดี ได้เรียนรู้เกิดขึ้นในระหว่างอยู่กับทีมมหาวิทยาลัยมิชิแกน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในช่วงแรกนั้นเขาในฐานะ ‘น้องใหม่’ (Freshman) เขาไม่เคยได้โอกาสในการลงเล่นอยู่แล้ว และก็ยังคงไม่มีโอกาสนั้นในปีที่ 2 เพียงแต่เมื่อถึงปี 3 เขาคิดว่าเขาน่าจะมีโอกาสดีที่จะยึดตำแหน่งควอเตอร์แบ็กในทีมได้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เพียงแต่ความฝันก็พังทลายไปอีกเมื่อเขาเล่นสู้ ไบรอัน กรีส (Brian Griese) ไม่ได้ในตอนนั้น

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สำหรับบางคนเจอแบบนี้ก็อาจจะมีถอดใจ แต่สำหรับเบรดี เขารู้ดีว่าหน้าที่ของเขาคือการพยายามสนับสนุนและผลักดันเพื่อนอย่างเต็มที่และเข้มข้นที่สุดในการซ้อมเพื่อที่เพื่อนจะได้เก่งขึ้น (และแน่นอนเขาก็จะเก่งขึ้นด้วย) เบรดีบอกว่าเขาไม่เคยมีความคิดที่จะหาทางกระชากเพื่อนลงมาแบบไม่ชอบธรรม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สุดท้ายในปีนั้นทีมคว้าแชมป์ระดับชาติได้โดยไม่แพ้ใครเลย ซึ่งแม้จะไม่ได้ลงสนาม เบรดีพอใจกับบทบาทและสิ่งที่เขาทำในเวลานั้น

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ถึงปี 4 เขาได้กลายเป็นตัวจริงบ้างและทีมก็ทำผลงานยอดเยี่ยม คว้าชัยชนะในซิตรัสโบวล์ (หนึ่งในรายการสำคัญระดับมหาวิทยาลัย) ด้วยการล้มทีมอาร์คันซอ ก่อนที่เขาจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมในปี 5 เรียกว่าเดินทางมาถึงจุดสูงสุดของระดับมหาวิทยาลัยแล้ว

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แต่ปรากฏว่าในปี 5 กัปตันทีมและตัวจริงอย่างเขาถูกท้าทายโดย ดรูว์ เฮนเซน ควอเตอร์แบ็กฝีมือดีอีกคนที่ถูกดึงตัวมา โดยโค้ชบอกว่าจะให้ ‘แบ่งกันเล่น’ ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นในเกมอเมริกันฟุตบอล

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เพียงแต่เมื่อโค้ชตัดสินใจแล้วก็ต้องเล่นไป บางนัดเบรดีรู้สึกว่าเขาเล่นดีกว่าเฮนเซนมากแต่ก็โดนสลับตัวอยู่ดี ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจจะโวยก็ได้ แต่เขาเลือกที่จะเก็บความรู้สึกไว้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เหตุผลเดียวคือเขาอยากโฟกัสแค่ความสำเร็จของทีม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

มีครั้งหนึ่งที่ทดสอบความเข้มแข็งทางใจของเบรดีอย่างมาก เกมนั้นเป็นเกมนัดที่ 3 ของปี มิชิแกนเจอกับซีราคิวส์ (Syracuse) ก่อนจบควอเตอร์ที่ 2 เฮนเซนขว้างบอลทำทัชดาวน์ได้แล้ว โค้ชบอกให้เล่นต่อไปทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเบรดีที่ได้ลงมาบ้าง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

กัปตันทีมแบบเขาเจ็บจนจุกหัวใจ แต่เมื่อทีมชนะ ตามธรรมเนียมแล้วกัปตันทีมจะต้องเป็นคนร้องนำเพลงเชียร์ปลุกใจทุกคน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ถึงจะเจ็บใจ แต่เบรดีลุกขึ้นยืนร้องเพลงบนเก้าอี้ด้วยเสียงอันดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ คนในทีมเองก็รู้ว่าเขาผิดหวังแค่ไหนที่ไม่ได้ลงเล่น แต่ในฐานะกัปตันทีม เขาอยากแสดงให้เห็นว่าเขาสนับสนุนเพื่อนและคู่แข่งอย่างเฮนเซนจนถึงที่สุด

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เบรดีเชื่อว่าเขาได้รับ ‘ใจ’ จากทุกคนกลับมา ก่อนที่ไม่กี่นัดหลังจากนั้นโค้ชจะเลือกให้เขาเป็นตัวจริงถาวร ทีมคว้าชัยชนะในเกมที่เหลือรวมถึงการคว้าแชมป์สุดดราม่าในรายการออเรนจ์โบวล์ที่เป็นเกมสุดท้ายในระดับมหาวิทยาลัยของเขา

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

การวางตัวของเขาในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ที่อะไรๆ ไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจในตอนนั้น มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพัฒนาความเป็นผู้นำของเขา

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เบรดีเชื่อเสมอว่าเขาพร้อมจะทำงานหนักเพื่อทีมก่อนตัวเองเสมอ และพร้อมจะสนับสนุนเพื่อนทุกคนในเวลาเดียวกับที่พิสูจน์คุณค่าของตัวเองว่าเขาคือคนที่เหมาะสมที่จะเป็นตัวจริงในฐานะควอเตอร์แบ็กของทีม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี2. เพราะทุกคนล้วนอยากเป็นคนสำคัญ

ในทุกทีมจะมีคนที่แสงส่องมาไม่ถึงเสมอ แล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้เขาเหล่านั้นยินดีที่จะร่วมสู้ไปกับทุกคนด้วยแม้ว่าคนจะจดจำเขาได้น้อยจนถึงอาจจะไม่เคยจดจำเลยก็ตาม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดียกตัวอย่างทีมมหาวิทยาลัยมิชิแกนอีกครั้ง ในทีมนั้นมีผู้เล่นตำแหน่งฟูลแบ็ก (Fullback) ที่เก่งกาจอย่างยิ่งชื่อ คริส ฟรอยด์ งานของเขาคือการบล็อกผู้เล่นตำแหน่งไลน์แบ็กเกอร์ (Linebacker) ของทีมตรงข้าม เพื่อสร้าง ‘รู’ สำหรับผู้เล่นรันนิ่งแบ็ก (Running Back) พาบอลทะลวงไปให้ได้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

หน้าที่นี้บอกเลยว่าเป็นงานที่หนักมาก ใช้ร่างกายเยอะมาก เพราะต้องเจ็บตัวจากการปะทะตลอดเวลา แต่กลับแทบไม่มีใครใส่ใจหรือมองเห็นมากนักในเกมฟุตบอล เพราะกล้องจะจับแต่คนที่ถือบอลอยู่

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

คนที่สอนให้เบรดีได้รู้ว่าเราต้องใส่ใจกับคนที่เป็น Unsung Hero หรือคนที่ปิดทองหลังพระเหล่านี้ด้วยคือ ไบรอัน กรีส

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สิ่งที่กรีสทำคือการประกาศกับทุกคน “ไม่มีใครที่ผมอยากจะมีอยู่ในแบ็กฟิลด์ (Backfield) กับผมมากไปกว่า คริส ฟรอยด์ อีกแล้ว”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

คำพูดของกรีสคือโลกทั้งใบของฟรอยด์ เบรดีสัมผัสได้ทันทีว่าฟูลแบ็กจอมแกร่งคนนี้ดู ‘ยืด’ ด้วยความภูมิใจเพราะมีคนมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

หลังจากนั้นเบรดีก็เริ่มเรียนรู้ที่จะให้เครดิตกับคนที่อาจจะไม่ได้รับความสนใจมากนัก ไม่ใช่เพียงเพราะคนเหล่านั้นสมควรที่จะได้รับคำชื่นชม แต่เป็นการบอกกับทุกคนด้วยว่าจะต้องไม่มีผู้เล่นคนไหนที่จะถูกมองข้าม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการเป็นผู้นำทีม (Team Leadership) ซึ่งเขาจดจำและนำมาใช้ต่อเมื่อถูกดราฟต์เข้ามาเล่นในระดับอาชีพกับนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ด้วย โดยกลุ่มที่เบรดีใส่ใจเป็นพิเศษคือทีม Offensive Lineman

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดีจะเข้าไปในห้องประชุมของทีมตลอด และบอกว่าพวกเราจะไม่มีวันประสบความสำเร็จได้หากไม่มีพวกเขา (ซึ่งมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ) นอกจากนี้ยังหาวิธีในการชื่นชมด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป บางครั้งก็พากันไปกินมื้อเย็นด้วยกัน บางครั้งก็เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ และบางครั้งก็ชื่นชมออกสื่อกันโต้งๆ เพื่อให้พวกเขารู้ว่าไม่มีใครลืม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

พอถึงตอนที่ย้ายมาอยู่กับแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ในปี 2020 ช่วงนั้นทีมมีปัญหาจังหวะการเล่นสกรีนพาส (Screen Pass: การส่งบอลสั้นๆ ให้วิ่งฝ่าโดยมีคนช่วยบล็อกให้) เพราะผู้เล่นใน Offensive Line เข้าบล็อกช้าและพลาดบ่อยเกินไป

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เพื่อหาทางแก้ไข เบรดีเลือกวิธีการกระตุ้นเล็กๆ ด้วยการบอกกับพวกเขาว่า “ถ้าเราเล่นสกรีนพาสแล้วทำระยะได้มากกว่า 15 หลา ผมจะจ่ายให้หลาละ 1,000 ดอลลาร์”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

การกระตุ้นด้วยวิธีนี้ได้ผลทันที! เมื่อจบเกมวันอาทิตย์ ทุกคนจะมานั่งดูเทปการเล่นย้อนหลังด้วยกัน ซึ่งทีม Offensive Line ต่างมีรอยยิ้มเมื่อได้เห็นหน้าเบรดี พร้อมกับทำท่าถูมือไปมาเพื่อรอรับรางวัลของพวกเขา

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

จริงๆ เงินแค่นี้ไม่ได้มากมายอะไรสำหรับนักอเมริกันฟุตบอลที่ได้รับเงินตอบแทนมหาศาลในสัญญาของพวกเขา แต่สิ่งที่ทำให้ชนะใจทุกคนได้คือการที่เบรดีเดิมพันกับทุกคนด้วยเงินของตัวเอง แม้มันจะเล็กน้อย แต่มันมหาศาลในความรู้สึก

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ดังนั้นผู้นำที่ดีจะต้องพยายามหาทางที่จะคิดถึงคนที่อาจจะไม่ได้รับความสนใจ การจดจำ ด้วยการแสดงให้เห็นว่าใส่ใจพวกเขาอยู่นะด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ไม่ใช่เฉพาะแค่นักกีฬา เพราะในทีมอเมริกันฟุตบอลประกอบไปด้วยคนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทรนเนอร์ สตาฟฟ์ พ่อครัวแม่ครัว คนทำความสะอาดล็อกเกอร์รูม คนที่ซักชุดให้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

บางครั้งคำพูดดีๆ ชื่นชมกันสัก 4-5 คำก็ทำให้โลกของคนเหล่านี้สดใสแล้ว

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ทีมที่ดีคือทีมที่ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขามีคุณค่า

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

และมันคือหน้าที่ของคนที่เป็นผู้นำที่จะต้องดูแลเรื่องเหล่านี้ให้ได้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

The Art of Leading Teammates

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี3. สร้างวัฒนธรรมทุ่มเท 100%

ในช่วงปีแรกๆ ที่มาอยู่กับแพทริออตส์ เบรดีอยู่กับก๊วนที่เรียกว่า ‘Edgers’

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ชาวแก๊งนี้ไม่ได้ตั้งมาเพื่อเป็นมาเฟียของทีม แต่อยู่ด้วยกันเพื่อผลักดันกันและกันให้ไปได้ไกลกว่าเดิม สุดกว่าเดิม ผ่านการแข่งขันเล็กๆ น้อยๆ เช่น ใครจะมาถึงยิมก่อนคนอื่น ใครจะดูเกมการแข่งได้มากกว่าคนอื่น ใครจะซ้อมพิเศษมากกว่าเพื่อน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ไปจนถึงเรื่องที่เหมือนไม่มีสาระเลยอย่างใครจะดื่มน้ำได้มากกว่าคนอื่น

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

การแข่งขันในเรื่องเล็กๆ เหล่านี้ทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีภายในทีม โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องรอโค้ชบอกหรือโค้ชสั่ง พวกเขาพร้อมที่จะทำได้มากกว่าเพื่อจะไปได้ไกลกว่าเสมอ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ครั้งหนึ่ง บิล เบลิชิก โค้ชของทีมสั่งให้วิ่งไปกลับ 20 รอบ ในเวลาต่ำกว่า 7 วินาที และให้พักรอบละ 30 วินาที

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดีได้ยินแล้วก็ลุกขึ้นบอกว่า “พวกเราจะวิ่ง 24 รอบ รอบละ 6 วินาที และจะพักแค่รอบละ 15 วินาที”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในวงเล็บว่าตัวเขาเองเป็นคนที่วิ่งช้าที่สุดในทีมด้วย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

คนอื่นได้ยินแล้วก็มีคนโวยวายและบ่นบ้าง แต่เบรดีบอกกับทุกคนว่า “อย่าไปสนใจแค่ที่โค้ชบอก เราต้องซ้อมให้หนักขึ้นเพราะมันสำคัญกับพวกเราจริงๆ ไม่ใช่แค่จะทำให้โค้ชพอใจเฉยๆ”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

จากประสบการณ์ของเบรดี นักอเมริกันฟุตบอลทุกคน “มักจะคิดเองว่าพวกเขาทุ่มเท 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว” แต่ในความเป็นจริงพวกเขาเล่นกันแค่ 70 หรือ 80 เปอร์เซ็นต์ของความสามารถที่แท้จริง โดยที่พวกเขาเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

บ่อยครั้งที่พวกเขาคิดว่าก็ทุ่มเทเต็มที่แล้ว ถ้าเล่นไม่ดีเขาคงไม่ได้รับค่าตอบแทนปีละ 10 ล้านดอลลาร์หรอกจริงไหม? ความคิดแบบนี้ทำให้พวกเขาไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่ที่สุดอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งวิธีเดียวที่จะแก้ไขได้คือการต้องให้คนในทีมเป็นคนผลักดันกันและกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ไปด้วยกัน ไปได้ไกลกว่าเสมอ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดียอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะหา ‘หลักฐาน’ ที่เป็นตัวเลขสถิติที่ชัดเจนในเรื่องนี้ว่าคนที่เล่นแค่ 70 เปอร์เซ็นต์จะเค้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือออกมาได้อย่างไร แต่ด้วยการสร้างโมเดลที่ให้ความสำคัญของทีมก่อน และพยายามทำให้ทุกคนเป็นที่พึ่งพาได้และตั้งความคาดหวังที่สูงขึ้น

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ทำแบบนี้อย่างน้อยเบรดีเชื่อว่าจะเค้นความสามารถจริงๆ ออกมาได้อีก 5 หรือ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมันมากเกินไปที่จะสร้างความแตกต่างในการแข่งขันได้แล้ว

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ความยากนิดหน่อยสำหรับคนเป็นผู้นำคือการหาวิธี ‘สื่อสาร’ อย่างไรไม่ให้คนฟังรู้สึกไม่ดี

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

บางครั้งอาจจะเป็นการบอกว่า “อยากให้พูดเรื่องจริงหรืออยากให้พูดในสิ่งที่นายอยากฟัง?” ก่อนจะบอกว่า “วันนี้นายเตรียมตัวมาไม่ดีเลย พวกเราต้องการนายในเวอร์ชันที่ดีกว่านี้”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

คำวิจารณ์แบบนี้อาจจะเป็นยาขม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แต่หวานเป็นลม ขมเป็นยา การพูดจากันตรงๆ เน้นเรื่องงานไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแบบนี้แหละที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนา

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สำหรับเบรดี เมื่อโตขึ้นก็รู้ว่าคนที่กล้าจะบอกกันตรงๆ แบบนี้นี่แหละคือคนที่จริงใจและห่วงใยกันจริงๆ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี4. ต่างคนต่างใจ

ในเกมอเมริกันฟุตบอลก็ไม่ต่างจากโลกการทำงานจริง เบรดีบอกว่าผู้เล่นแต่ละคนล้วนมีความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่างกัน มีเป้าหมายในใจที่แตกต่างกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

บางคนเล่นเพื่อเงิน อยากได้สัญญาค่าตอบแทนมหาศาล บางคนเล่นเพื่อชื่อเสียง (ถ้าติดออลโปรหรือทีมยอดเยี่ยมถือว่าชีวิตนี้พอใจแล้ว) บางคนเล่นเพื่อชัยชนะ อยากเป็นแชมป์

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แต่อีกหลายคนไม่คิดอะไรมากไปกว่าทำอย่างไรก็ได้ไม่ให้ตกงาน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ความท้าทายสำหรับผู้นำคือการที่เราต้องรับรู้และสัมผัสสิ่งเหล่านี้ได้โดยสัญชาตญาณ และมีหน้าที่ในการที่จะหาทางกระตุ้นพวกเขาเหล่านี้ในแบบเฉพาะของพวกเขาเอง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

มันแทบไม่ต่างอะไรจากภาษารัก (Love Languages) แต่ละคนมีวิธีการบอกรักที่แตกต่างกัน และมีวิธีที่จะตอบรับความรักที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งเป็น ‘ทักษะ’ ที่ผู้นำจะต้องเรียนรู้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดียกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นจากช่วงที่ยังเล่นให้กับแพทริออตส์ ในช่วงนั้นมีผู้เล่นตำแหน่งไวด์รีซีฟเวอร์ (Wide Receiver) ที่แตกต่างกัน 2 คน คือ จูเลียน เอเดลแมน และ แรนดี มอสส์ วิธีการกระตุ้นสองคนนี้ก็แตกต่างกันไปด้วย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ถ้าอยากให้คนจิตใจแข็งแกร่งอย่างเอเดลแมนงัดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาให้ได้ ก็ต้องพูดในทำนองว่า “จูลส์ นายดูแย่นะวันนี้”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สิ่งที่จะได้รับตอบแทนกลับมาคือสายตาเขม็งที่ไม่บอกก็รู้ว่าโกรธ แต่เบรดีรู้ว่าเอเดลแมนจะเปลี่ยนความโกรธนั้นไปใช้ในสนามเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าที่พูดถึงเขาแบบนั้นผิด

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ส่วน แรนดี มอสส์ สุดยอดรีซีฟเวอร์ระดับ Hall of Fame จะชอบคำพูดในอีกแบบเลย คือจะชอบคำชมมากกว่า

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

“แรนดี นายสุดยอดไปเลยวันนี้”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ถ้าลองพูดแบบนี้เขาจะมีกำลังใจที่จะทำให้ดีมาก ซึ่งเบรดีรู้ว่าเขาต้องพยายามกระตุ้นด้วยคำพูดเชิงบวกแบบนี้กับมอสส์ไปเรื่อยๆ แม้ในการซ้อมต่อให้มีช่วงที่ไม่ได้ขว้างบอลให้นานแค่ไหนก็จะบอกว่า “ถ้ามีจังหวะที่เหมาะเจาะ เดี๋ยวฉันจะขว้างให้นายเอง ตาของฉันมองหานายอยู่ในทุกเพลย์”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แต่มันก็จะมีบางคนที่ต่อให้เบรดีเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แม้ว่าตัวเขาเองจะเข้าใจดีว่าคนเป็นโค้ชหรือกัปตันทีมจะต้องอุทิศเวลา 90 เปอร์เซ็นต์ไปกับการหาทางทำให้ผู้เล่น 10 เปอร์เซ็นต์ที่รับมือยากที่สุดทำผลงานให้ได้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในทีมแพทริออตส์จะมีผู้เล่นคนหนึ่งในทีมที่เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ แต่เพราะเจอกับช่วงเวลาที่เลวร้ายในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่น แผลเป็นในใจนั้นไม่มีวันหายไม่ว่าใครจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ผู้เล่นคนนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด แต่เขาแค่ไม่มีวันเชื่อใจคนอื่นหรือควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ซึ่งเบรดีก็ได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนที่ช่วยเด็กคนนี้ได้ดีกว่าตัวของเขาเอง หรือมีนักจิตบำบัดที่เก่งกาจมาช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจให้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

การต้องเจอกับคนที่น่าเห็นใจแบบนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก แต่ผู้นำต้องพยายามที่จะ ‘ช่วยเหลือ’ และดึงศักยภาพที่มีในตัวของเขาออกมาให้มากที่สุด

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

การใช้เวลาร่วมกันเพื่อกระตุ้นและสร้างความท้าทายกับเพื่อนร่วมทีมเป็นเรื่องที่มีคุณค่าอย่างมาก เพราะสุดท้ายมันไม่ได้หมายถึงเพียงแค่เรื่องของการทำผลงานในสนามเท่านั้น

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แต่มันหมายถึงการที่เราช่วยไม่ให้เขาเหล่านั้นไปทำให้ใครผิดหวังอีกด้วย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่คนทั่วไปมองข้าม แต่นี่แหละคือสิ่งที่ผู้นำจำเป็นต้องทำ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ยังมีสิ่งที่เบรดีพูดถึงอยู่บ่อยๆ คือเรื่องของ Input และ Output ซึ่งปกติแล้วจะหมายถึงการฝึกซ้อม (Input) ซ้อมแบบไหนก็ได้ผลงาน (Output) แบบนั้น แต่ในอีกทางแล้วก็หมายถึงการเลือกคนในทีมด้วย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เพราะถ้าเลือกคนที่ไม่มีวินัย เลือกคนที่เห็นตัวเองเป็นศูนย์กลาง นั่นคือ Input ที่แย่ และจะนำไปสู่ Output ที่แย่ คือผลการแข่งขันก็จะไม่ตามไปด้วย ซึ่งการที่ผู้นำพยายามเข้ามาช่วยเหลือผู้เล่นที่มีปัญหาเรื่องของการควบคุมอารมณ์ ก็คือการช่วยเหลือพวกเขาให้มี Input และ Output ที่ดีขึ้น และแน่นอนว่ามันจะเป็นผลดีต่อทีมตามไปด้วย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี5. เป็นส่วนที่ขาดหายของกันและกัน

คนที่มีความสำคัญกับชีวิตของ ทอม เบรดี อย่างมากคือ บิล เบลิชิก สุดยอดโค้ชที่เขายกย่องว่าเป็น G.O.A.T. ของ NFL เช่นกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบลิชิกเป็นคนที่หากใครติดตามมานานจะคุ้นเคยกับสไตล์ในการทำงานที่เข้มข้นและมองทุกอย่างตามความเป็นจริงเสมอ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เหตุผลที่ทำให้เบลิชิกเป็นแบบนี้มาจากการที่เป็นลูกชายของโค้ชในทีมอะคาเดมีของกองทัพเรือ เติบโตและเรียนรู้วิชาทุกอย่างจากที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นวิชาการเป็นโค้ชหรือวิชาชีวิต เรียกได้ว่าเป็นผลที่เกิดจากต้นไม้ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยระเบียบวินัยแบบทหารอย่างแท้จริง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

วินัย (Discipline) และความรับผิดชอบ (Accountability) คือสองสิ่งที่โค้ชอย่างเบลิชิกให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ใช่เรื่องของความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) หรือความเห็นอกเห็นใจ (Compassion)

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

หากเขาต้องการให้ทีมทำได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการตลอดเวลา จะพยายามมองหาจุดอ่อนและพื้นที่ที่จะสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้อีกมากกว่าจะชมเชยว่าทำนั่นทำนี่ได้ดีอยู่แล้ว และนั่นเป็นสิ่งที่นักกีฬาในระดับโปรต้องการ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

นั่นเพราะในชีวิตของนักกีฬาคนหนึ่ง พวกเขารายล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก ภรรยา เอเจนต์ หรือแฟนๆ คนเหล่านี้จะพูดเสมอว่าเราทำได้ดีแค่ไหน แต่โค้ชอย่างเบลิชิกคือคนที่จะดึงเราออกมาจากเสียงเหล่านั้นเพื่อไม่ให้หลงไปกับคำเยินยอ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

การได้เล่นให้กับโค้ชที่ดีแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่โชคดี แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘วิธีการ’ ของเขาในการหาทางกระตุ้นทีมที่มุ่งเน้นเล่นกับเรื่องของ ‘ความกลัว’ บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ยากจะรับมือ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ดังนั้นในฐานะผู้นำของทีม เบรดีจึงพยายามที่จะหาทางเติมเต็มในสิ่งที่เบลิชิกไม่มี

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

โค้ชอย่างเบลิชิกจะไม่ใกล้ชิดกับผู้เล่นคนไหนเลย เขาไม่ใช่คนที่จะมีอารมณ์ขันล้อเล่นด้วยได้และสร้างความผูกพันระหว่างโค้ชกับผู้เล่น นั่นเพราะเขารู้ดีว่าสักวันช้าหรือเร็วเขาจำเป็นจะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของผู้เล่นคนนั้น ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยน การตัดออกจากทีม หรือแม้แต่การไล่ออกจากทีม ที่สามารถเกิดขึ้นได้เสมอในเส้นทาง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดีจึงทำในสิ่งที่เบลิชิกจะไม่ทำ คือความใส่ใจ ความห่วงใย คอยหมั่นสอบถามชีวิตความเป็นอยู่นอกสนามไปพร้อมๆ กับการถามถึงเรื่องการทำงานในฐานะผู้เล่นเหมือนกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ถ้าเป็นเพื่อนร่วมทีมในสนามของเบรดีครั้งหนึ่งแล้ว นั่นหมายถึงเราจะเป็นเพื่อนร่วมทีมกันตลอดไป

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สำหรับเบรดีแล้ว เขาเชื่อว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดีบอกว่าเขาโชคดีที่มีโค้ชอย่างเบลิชิก และในเวลาเดียวกัน เบลิชิกก็โชคดีที่มีเขาอยู่ด้วยเช่นกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ในแบบที่แตกต่างกันออกไป

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

อย่างไรก็ดี ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะต้องทำในแบบเบรดีเท่านั้น เพราะ ‘ผู้นำ’ แต่ละคนจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป และไม่ได้แปลว่าในทีมจะมีผู้นำได้แค่คนเดียว

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

หนึ่งในผู้นำในทีมแพทริออตส์ในช่วงแรกของเบรดีคือ วิลลี แม็คกิเนสต์ สุดยอดไลน์แบ็กเกอร์ เจ้าของส่วนสูง 6 ฟุต 5 นิ้ว และหนัก 270 ปอนด์ รูปร่างน้องๆ ยักษ์ และเสียงอันทรงพลังของเขาคือเครื่องมือการนำที่สำคัญ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ถ้าเขาพูดอะไรสักอย่าง ทุกคนจะยืนขึ้นและบอกว่า “ตกลงวิลลี เราจะทำในสิ่งที่นายขอให้เราทำ”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ขณะที่ แมทธิว สเลเตอร์ ที่เบรดีเล่นด้วยในช่วงปี 2010 แสดงความเป็นผู้นำของเขาด้วยการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง (Leader by Example) ที่ความทุ่มเทของเขาคือเครื่องพิสูจน์และทำให้ชนะใจเพื่อนร่วมทีมทุกคนโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากมาย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

หรืออย่าง ดันเต สการ์เนคเคีย หนึ่งในทีมงานโค้ชจะมีวิธีผสมผสานระหว่างความดุดันแบบเบลิชิกกับความอ่อนโยนที่ห่วงใยทุกคนเป็นการส่วนตัว นั่นทำให้ผู้เล่นทุกคนทุ่มเทเต็มที่ให้กับการซ้อมและการเล่นเสมอ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในทีมแพทริออตส์ ผู้นำคือ ‘ผู้ขับเคลื่อนทางวัฒนธรรม’ (Culture Drivers) ซึ่งในทีมจะมีคนที่มีบทบาทในการเป็นผู้นำมากมาย โดยที่แต่ละคนก็จะมีสไตล์ของตัวเองที่สุดท้ายจะเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกันโดยอัตโนมัติ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

อ่อนกับแข็ง ขาวกับดำ หยินและหยาง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ทุกอย่างรวมกันเพื่อทีม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี6. ตระหนักรู้และตอบโต้

นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลภายนอกอาจจะดูแข็งแกร่ง แต่ภายในแล้วจิตใจสามารถเกิดความหวั่นไหวได้เสมอ และบางครั้งปัจจัยจากภายนอกอาจส่งผลทำให้พวกเขาเลือกที่จะทำทุกอย่างเพื่อตัวเองก่อนที่จะทำเพื่อทีม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เคสคลาสสิกที่เกิดขึ้นได้เสมอคือเสียงจากเอเจนต์ ซึ่งมีหน้าที่ในการเจรจาผลตอบแทนและผลประโยชน์ต่างๆ ให้แทนนักกีฬาที่ส่วนใหญ่จะไม่มีความชำนาญที่จะจัดการเรื่องเหล่านี้ได้เอง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในโลกของความฝัน เบรดีอยากจะมีรีซีฟเวอร์เก่งๆ สัก 3 คนที่พร้อมจะรับบอลที่เขาขว้างออกไป และพาทีมชนะได้โดยที่ไม่มีใครสนใจอะไรนอกจากชัยชนะของทีม แต่ในโลกของความจริงแล้วมันไม่ง่ายแบบนั้น

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สมมติว่ารีซีฟเวอร์ A ทำได้เยี่ยมในเกมหนึ่ง และต่อให้รีซีฟเวอร์ B และ C จะดีใจกับชัยชนะด้วยก็ตาม แต่เมื่อจบเกมลงมันจะมีเสียงสะท้อนกลับมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอเจนต์ เพื่อน หรือครอบครัว รวมถึงสื่อ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ โดยที่ผลงานสถิติของพวกเขาเริ่มแย่ลง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ถึงตอนนั้นปัญหาจะเกิดเพราะเอเจนต์จะบอกว่าถ้าผลงานเป็นแบบนี้จะส่งผลต่อมูลค่าของสัญญาในอนาคต ผู้เล่นจะเริ่มกังวลว่าพวกเขาอาจจะสูญเสียความเป็นที่น่าสนใจและการชื่นชมจากฐานแฟนๆ ไป

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แรงกดดันตรงนี้คือสิ่งที่ผู้นำจำเป็นต้องตระหนักว่าต่อให้ทุกคนมีสปิริตนักกีฬาเหมือนกัน แต่ว่าทุกคนเผชิญกับแรงกดดันจากคนรอบข้างไม่เหมือนกัน และมันอาจจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางที่ไม่ดีได้

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เบรดีมองว่าเรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจากชีวิตการทำงานของคนทั่วไป เพราะทุกคนจะต้องเจอกับ ‘คำถาม’ จากครอบครัวหรือคนรักว่าจะได้เลื่อนขั้นเมื่อไร หรือจะได้ค่าตอบแทนขึ้นที่สมควรจะได้รับหรือไม่

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ความอ่อนแอเกิดขึ้นได้กับทุกคนและมันอาจจะทำให้เราเปลี่ยนจากการทำเพื่อทีมมาเป็นการทำเพื่อตัวเอง มองตัวเองเป็นศูนย์กลาง (Self-Centred)

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สิ่งที่ผู้นำจะทำได้คือการใส่ใจแรงกดดันจากภายนอกเหล่านี้ด้วย และต้องพยายามย้ำ ‘ข้อความ’ (Message) ที่ชัดเจนว่าทีมต้องมาก่อน แล้วที่เหลือจะตามมาเอง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

The Art of Leading Teammates

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี7. เพราะความสัมพันธ์นั้นสำคัญ

เบรดีกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบทบาทงานด้านโทรทัศน์ ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเขาได้ไปร่วมกิจกรรม Outing ของทีมที่เกาะบาฮามาส

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ตามประสากิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ มันต้องมีการเล่นเกมสนุกๆ กันบ้าง กินข้าวด้วยกันบ้าง และได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกันบ้าง สิ่งเหล่านี้สำหรับคนทำงานหลายคน (โดยเฉพาะคนที่มีประสบการณ์สูง) อาจจะมองว่าเป็นกิจกรรมที่ไร้สาระ ไม่มีประโยชน์

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

แต่สำหรับเบรดี เขาเชื่อว่านี่แหละคือโอกาสที่ดีที่จะได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในทีม นี่คือเวลาที่ทุกคนจะได้มีประสบการณ์ร่วมกันในสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เราจะได้เห็นด้านที่แตกต่างของแต่ละคน (เช่น เราอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าทีมงานสตูดิโอคนหนึ่งจะเล่นเปียโนได้เก่งมากๆ)

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

สิ่งดีๆ ที่เก็บเกี่ยวได้จากช่วงเวลาแบบนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจกันมากขึ้นไม่มากก็น้อย และนั่นจะทำให้ทุกคนทำผลงานกันได้ดีขึ้นด้วย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เพราะส่วนหนึ่งของความเป็นผู้นำคือการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทีมและความเชื่อใจระหว่างกันและกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ในช่วงที่ยังเล่นอเมริกันฟุตบอลอาชีพ เบรดีก็ใช้เวลาร่วมกับเพื่อนร่วมทีมแบบนี้เหมือนกัน โดยหลังจบฤดูกาลแข่งขันเขาจะชวนกันไปเที่ยวบ้าง ไปดูโน่นดูนี่ด้วยกันบ้าง หรือหากไม่ได้ไปด้วยกันก็จะหมั่นส่งข้อความหาหรือวิดีโอคอลคุยกัน

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เพราะในเกมอเมริกันฟุตบอลนั้นถึงจะดูเป็นกีฬาที่ใช้พละกำลัง แต่สิ่งสำคัญที่ซ่อนอยู่คือเรื่องของความสัมพันธ์ เรื่องของความเชื่อใจ ซึ่งจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเรารู้จักและเข้าใจกันและกันได้ดีพอแล้ว

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ยิ่งเรารู้จักใครมากขึ้นเท่าไร เราย่อมไม่อยากทำให้เขาผิดหวังถูกไหม

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

เหมือนที่ดาตาญัง, เอธอส, ปอร์ธอส และอารามิส เคยบอกไว้ในสามทหารเสือ

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

“Tous pour un, un pour tous”

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

จากหมู่สู่เหล่า รวมเราเป็นหนึ่ง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

ทั้งหมดนี้คือ 7 สิ่งของผู้นำที่ ทอม เบรดี ได้เรียนรู้จากชีวิตการเป็นนักกีฬา และถูกสกัดออกมาโดย นิติน โนห์เรีย แห่ง Harvard Business Review ที่อาจจะยาวสักหน่อย แต่หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนได้นำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้บ้างไม่มากก็น้อย

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

โดยที่ทุกอย่างสามารถทำได้ทันทีไม่ต้องรอใคร เริ่มที่ใจเราเอง

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดีLet’s go ครับ!

 

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดี

อ้างอิง:

ข้อคิดของศิลปะการเป็นผู้นำจากทอมเบรดีhttps://store.hbr.org/product/tom-brady-on-the-art-of-leading-teammates/S24054
本文地址:http://realhistorychan.com/html/07d599964.html
版权声明

本文仅代表作者观点,不代表本站立场。
本文系作者授权发表,未经许可,不得转载。

热门文章

全站热门

'ติช่า เดอะเฟซ'เดินหน้าเอาผิดอดีตผู้จัดการ ลั่นดำเนินคดีนี้จนกว่าจะถึงที่สุด! | เดลินิวส์

"สหรัฐ" สอนเชิง "ซูดานใต้" ฉลุย 8 ทีมสุดท้ายยัดห่วงโอลิมปิก | เดลินิวส์

'บุ๋ม ปนัดดา' เผยสาเหตุซุ่มท้องเงียบ-มีอาการน่ากลัว สาวไทยขอบคุณปลุกความหวังมีลูก | เดลินิวส์

สวิตช์สู่ความเทรนดี้! กับกระเป๋าลาคอสท์คอลเลกชันใหม่ Lacoste Summer Vibes | เดลินิวส์

"อีซอนคยุน"นำทีมฝ่ามหันตภัยลูกโซ่ หมอกนรกถล่มสะพาน ฝูงอสุรกายพันธุ์อำมหิต | เดลินิวส์

'เจแปน' ลูกชาย 'แจ๊ส ชวนชื่น' เปิดตัวแฟนสาวสุดแซ่บ ดีกรีไม่ธรรมดา-แฟนๆ เมนต์อิจฉา | เดลินิวส์

ฟินหนักมาก 'แอฟ-นนกุล'ยิ้มรับคำ 'คู่รัก' หลุดหวานกลางวง 'ก็ชอบถึงได้ยืนอยู่ตรงนี้'! | เดลินิวส์

x.com

热门文章

友情链接